มีอย่างนึงที่หนูชอบมากในหลักสูตรเค้า 

คือ เรื่องวัฒนธรรมต่าง ๆ ค่ะ 

เค้าจะใส่มันมาด้วยแบบกลมกลืน 

คือ ไม่ได้อัด ไม่ต้องมาท่องจำ 

เค้าให้เราเรียนรู้ว่า คนสวีเดนทำอะไร 

ฟีก้า คืออะไร 

อย่างพอเดือน มิถุนายน จะ Middsommar 

เค้าก็จะเริ่มพูดถึงเทศกาลนี้ 

เรียนภาษา ผ่านการอ่าน การพูดถึงเทศกาลนี้

ที่มา เราทำอะไรบ้าง กินอะไร เก็บดอกไม้มาทำเป็นมงกุฎ เต้นแบบไหน ร้องเพลงอะไร 

ที่โรงเรียน ก็จะจัด Midsommarafton ให้นักเรียนนะคะ 

มีกิจกรรมไปเก็บดอกไม้กันจริงจริง 

มานั่งพันดอกไม้ มาเต้นรอบเสา มาฟีก้ากัน 

ให้อ่าน ให้เขียน พูด เปรียบเทียบกับเทศกาลที่ขึ้นชื่อของบ้านนักเรียน 

ทำให้คนต่างด้าวที่มาอยู่ในบ้านเมืองเค้า เข้าใจสิ่งที่มันมีมันเกิดแบบเห็นภาพ 

ก่อนวันสำคัญต่างๆ ที่โรงเรียนหนูจะพูดถึง อธิบายคร่าว ๆ 

มันมีวันอะไรสักวัน ที่เค้าจุดไฟ 31 เมษา valborg ถูกมั้ยคะ 

แล้วหนูก็มาเห็นงานจริง ในเมือง 

Jul นี่น่ารักมาก สอนคำศัพท์ ที่เกี่ยวข้องกับเทศกาลนี้ 

ดอกไม้อะไรบ้าง ที่คนสวีเดนชอบตกแต่งในบ้านช่วงนี้ 

Glögg ดวงดาวที่แขวน 

julbord อาหารแต่ละอย่าง เรียกไร เครื่องดื่ม 

เรียนร้องเพลงเกี่ยวกับเทศกาลเพลงที่ร้านรวงชอบเปิดในเทศกาลนี้ 

น่ารักดีค่ะ เค้ามีปาร์ตี้คริสมาส ที่ รร ด้วยนะคะ ก่อน รร จะปิดคริสต์มาส แต่หนูจบก่อน เลยไม่ได้เห็นเลย

คุณยาย Astrid เป็นใคร ยังไง 

หนังสือเล่มดังดังของคุณยาย 

เอาหนังสั้นมาให้ดู อะไรแบบนี้ 

มันดีนะคะคุณครู มันมีประโยชน์กับชีวิตประจำวัน กับเรื่องรอบตัว

:::

นอกเหนือจากเรื่องภาษา ความพร้อม การเตรียมตัวให้เรา 

หนูมองว่า sfi เป็นจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ของสังคมสวีเดน ของต่างด้าวที่มาใช้ชีวิตที่นี่ด้วยนะคะ 

คือ มันหลากหลายมาก ซึ่งในสังคม ในบ้านเมืองจริงของเค้ามันก็หลากหลายจริง 

เรื่องนึงที่ไม่เจอคือ เรื่องเวลา ครูที่ sfi ไม่เคยว่าเลย 

เวลานักเรียนมาสายทั้งเวลาเริ่มเรียน ทั้งหลังเบรค 

ทั้งที่คนสวีเดนให้ความสำคัญกับการตรงต่อเวลามาก ๆ 

ถ้าพูดนักเรียนต่างด้าวทั้งหลายน่าจะได้เรียนรู้สิ่งที่ต้องทำตั้งแต่แรก 

แฟนหนูบอก คนสวีเดนไม่ชอบความขัดแย้ง ครูคงเลือกไม่พูด 

มีวันนึง หนูมีครูสอนแทน มาจาก xxx ครูเริ่มคลาส คนมาสาย 

ครูเทศน์ยาวเหยียด ประเทศตรงต่อเวลานะ เราต้องเคารพนั่นนี่ 

นั่งเรียนมาตั้งนาน พึ่งมีครู (ซึ่งไม่ใช่สวีเดนแท้) พูด